Renovateสวนน้ำท่วม … ให้เป็นคาเฟ่สุดชิลล์ท่ามกลางธรรมชาติ
Renovateสวนน้ำท่วม … ให้เป็นคาเฟ่สุดชิลล์ท่ามกลางธรรมชาติ
วันนี้ทางRenovate.in.th มีไอเดียของคุณสมาชิกหมายเลข 1499459 จากเว็บไซต์ Pantip.com ที่จะมาแชร์ประสบการณ์บูรณะพื้นที่สวนที่ถูกน้ำท่วมเมื่อปี 54 ให้กลายเป็นร้านกาแฟสุดชิลล์ท่ามกลางธรรมชาติให้ดูกัน ไปดูกันเลยค่ะว่าจะสวยขนาดไหน
ขออนุญาติเล่าประวัติพอสังเขปละกันนะครับ ผมจะเล่าไปเรื่อยๆพร้อมกับรูปภาพละกันนะครับ ไม่อยากให้เห็นภาพ Final ก่อน อยากไห้ทุกท่านใช้จินตนาการร่วมกันครับ แหะๆ ^_^
พื้นที่แห่งนี้เคยเป็นสวนกล้วยไม้ครับ แต่เนื่องจากถูกน้ำท่วมตอนปี 54 เราจึงตัดสินใจที่จะปิดกิจการครับ เพราะงบที่จะใช้บูรณะนั้นถึงขั้นมหาศาล อีกอย่างไม่อยากให้คุณแม่เหนื่อยแล้วครับ ประกอบกับธุรกิจกล้วยไม้ก็ไม่ได้ดีเหมือนสมัยก่อนด้วย เราทยอยจ่ายชดเชยให้กับพนักงานทีละ 2-3 คน เพราะจ่ายทีเดียวก็ไม่ไหว หลังน้ำท่วมก็ยังต้องพึ่งคนงานบ้างในการซ่อมแซม รื้อถอนของที่เสียหาย
*** ขออนุญาติแก้ไขกระทู้นิดนึงครับ เดี๋ยวผมต้องรีบออกไปทำงานละครับ เอาเป็นว่าผมลงรูป Final ให้ชมกันบางส่วนก่อนละกันนะครับ
รูปพวกนี้เป็นรูปก่อนน้ำท่วมนะครับ เราจัดสวนหย่อมไว้ต้อนรับลูกค้า สมัยนั้นผมจัด Meeting สำหรับคนรักกล้วยไม้ด้วยครับ รูปพวกนี้เป็นรูปก่อนน้ำท่วมนะครับ เราจัดสวนหย่อมไว้ต้อนรับลูกค้า สมัยนั้นผมจัด Meeting สำหรับคนรักกล้วยไม้ด้วยครับ
ช่วงตอนน้ำท่วม
ปี 54 วันที่น้ำเริ่มมาครับ ผมรีบกลับบ้านจอดรถไว้แถวตลาด กะว่าไม่ถึงรถแน่ แต่ผิดคาดครับ ..
วงที่เศรษฐกิจยังดี กล้วยไม้ขายดีก็เปิดร้านที่สนามหลวง 2 พอน้ำมันเริ่มแพงก็หยุดครับ สมัยเริ่มถีบตัวจากเกือบ 20บ./ลิตร สักพักก็มาเปิดเวบบอร์ดขายออนไลน์ ก็ขายได้ดีครับ ช่วงนั้นแพ๊คกล้วยไม้ส่งเกือบทุกวัน หลังๆเอ๊ะยังไง เศรษฐกิจเริ่มซบเซา ออเดอร์ทั้ง ตปท. และ บ้านเรา ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ประมาณปี 2008 ผมตัดสินใจไปประกวดร้องเพลงในรายการเรียลลิตี้ของค่ายทรู กะว่าเสี่ยงดูอีกซักตั้ง เผื่อว่าโชคดีรวยทางลัด (ผมประกวดปี 2007 เข้ารอบสุดท้าย แต่ไม่ไม่ได้เข้าบ้าน แต่ปี 2007 ไปเพราะคนรอบข้างยุให้ไป) ปีถัดมาผมเข้ารอบสุดท้ายแต่ไม่เข้าบ้านเหมือนเดิม ตอนนั้นยังเรียนอยู่ปี 4 เอแบคครับ กดดันมากเพราะเรียนก็ไม่ได้ดีเด่อะไร ประกอบกับขาดรายได้ ช่วงที่ขายกล้วยไม้ดีๆ ทำรายได้ให้แม่ได้เดือนหลายหมื่นอยู่ครับ ตัดสินใจออกหางานกลางคืนทำเลยครับ เล่นดนตรีไปเรียนไป ก็ยังเล่นดนตรีมาจนถึงทุกวันนี้ วิ่งเล่นดนตรีจนเบื่อกับการเดินทางครับ ตอนอยู่มหาลัยก็อยู่หอพัก แทบไม่ได้อยู่บ้านเลย พอเรียนจบมาก็ยังเล่นดนตรีเหมือนเดิมครับ ลงทุนทำเครื่องเสียงให้เช่าไปแล้วด้วย เลยกะว่าเรายึดอาชีพอิสระดีกว่า จะเปลี่ยนตัวเอง ตัดผม โกนหนวดโกนเครา ตื่นเช้าไปทำงานกลางวันมันก็ฝืนทั้งร่างกายและจิตใจครับ ผมพูดได้ 3 ภาษาครับ แต่ใจมันเทมาทางนี้ละ ทำไงได้
พองานเครื่องเสียงเริ่มเข้าที่เข้าทาง ผมตัดสินใจทำฟาร์มเห็ดย่อมๆต่อเลย ผมโชคดีครับที่ที่บ้านพอมีพื้นที่ + อุปกรณ์การเกษตรอยู่แล้ว ลงทุนแค่ระบบน้ำกับก้อนเชื้อเห็ด ที่เหลือมีครบอยู่แล้วครับ มีโรงเรือนเก่าๆ มีชั้นเหล็กอยู่แล้ว เลยไม่ต้องคิดอะไรมากครับ ทำเห็ดมาได้ซักระยะเริ่มรู้สึกว่า เอ๊ะ ทำไมเราไม่ลองหาวิธีขายเองหละ ทำไมต้องส่งให้พ่อค้าคนกลาง เลยเริ่มคิดอยากมีหน้าร้านเป็นของตัวเองครับ ก็ปรึกษากับแม่ว่าจะลองขายกาแฟ+เครื่องดื่มเสริมที่หน้าฟาร์มดู ไม่ต้องทำอะไรเยอะ แค่ตั้งคีออสแล้วบูรณะสวนหย่อมนิดหน่อยหาร่มมาตั้งแล้วเปิดขายเลย เพราะวัสดุเหลือใช้ที่บ้านมีเยอะมากๆครับ ใจผมอยากทำเล็กๆ ถ้าดีแล้วค่อยขยับขยาย แต่แม่บอกไม่เอา ถ้าจะทำ ต้องทำให้ดีไปเลย ค่าแรงค่าของทุกวันนี้ขึ้นเอาๆ เถียงกันไปเถียงกันมาสรุปแม่บอกว่าทำไปเลย ขาดเหลือแม่ให้ยืมก่อน
ถึงเวลาออกแบบก็นั่งดูสวนหย่อมหน้าบ้านแล้วลองนั่งคิดกันดูครับ ว่าจะเอายังไง บูรณะส่วนไหนได้ มีพื้นที่สร้างอะไรเพิ่มได้บ้าง
เราจะได้มีหน้าร้าน ไม่ต้องง้อพ่อค้าคนกลาง เผื่อขายอย่างอื่นเสริมได้ด้วยครับ






มาเริ่มงานสวน



มาถึงภายในกันบ้างครับ
เป็นอันเสร็จสมบูรณ์ครับ
หวังว่าข้อมูลน่าจะเป็นประโยชน์ให้กับท่านที่จะทำร้านกาแฟหรืองานจัดสวนนะครับ ^_^
ที่มา : คุณสมาชิกหมายเลข 1499459 จากเว็บไซต์ Pantip.com